Heather Rae Young นักแสดงจาก Selling Sunset เปิดเผยว่าเธอ 'ไม่เสียใจ' กับการตัดสินใจถ่ายนู้ดให้กับ Playboy เมื่อสิบปีก่อน เธอกล่าวย้ำคำกล่าวนี้อีกครั้งว่าการทำงานกับสิ่งพิมพ์ดังกล่าวเป็น "ช่วงเวลาที่กำหนด" และท้ายที่สุดก็เปิดประตูมากมายให้เธอเมื่อเธอลงมือในการเดินทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่บินสูงของเธอในปีต่อมา
แต่งเติมให้คู่บ่าวสาวซึ่งเพิ่งผูกปมกับ Tarek El Moussa ในพิธีริมทะเลอันเงียบสงบมีความกระตือรือร้น “มันทำให้อาชีพการงานของฉันเปลี่ยนไป มันเปลี่ยนชีวิตฉัน มันเป็นช่วงเวลาที่กำหนดที่สุดในชีวิตของฉัน” แม้ว่าเธอจะภาคภูมิใจในความพยายามของเพื่อนเล่นในอดีตของเธอ แต่ 'Bonus Mummy' ที่สารภาพตัวเองก็ยอมรับว่า “ฉันยังคงพยายามคิดว่าฉันจะบอกเด็ก ๆ ว่าฉันทำ Playboy ได้อย่างไร” หมายถึงสองคนที่งดงามของเธอ ลูกเลี้ยง เทย์เลอร์ วัย 11 ขวบ และเบรเดน วัย 6 ขวบ
ดาราอ้างว่าการติดต่อของเพลย์บอยทำให้เธอมีชัยในอาชีพอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ แรยองยังให้เครดิตความสำเร็จในช่วงต้นที่น่าประทับใจของเธอในฐานะตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในสายสัมพันธ์ที่เธอสร้างขึ้นขณะทำงานให้กับนิตยสารที่ร้อนแรง โดยยืนยันว่าตำแหน่งเพื่อนเล่นของเธอได้ปลดล็อกการเข้าถึงโลกของเศรษฐีและคนดังโดยเฉพาะ ดารารายดังกล่าวเปิดเผยว่า “ฉันใช้ช่องทางนั้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และใช้ผู้ติดต่อของฉัน ฉันขายอสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า 9 ล้านดอลลาร์ภายในสี่เดือนแรกของฉัน”
นอกจากจะให้ภาพอดีตของเธอแล้ว นักแสดงจาก Selling Sunset ยังช่วยเปิดเผยตัวอย่างข่าวซุบซิบทีวีเรียลลิตี้อีกด้วย โดยยืนยันว่าละครทั้งหมดที่ผู้ชมรับชมในรายการนั้นเป็นเรื่องจริงและไม่มีสคริปต์
Heather อ้างว่าเธอไม่สามารถไว้ใจดาราร่วม Christine Quinn ได้อีกต่อไป
ดังนั้น Rae Young ยืนยันว่าเธอและคู่ต่อสู้ที่ตอนนี้คือ Christine Quinn มีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและจริงใจเมื่อทั้งคู่เริ่มต้นที่บริษัท Oppenheim Group ซึ่งน่าเสียดายที่พังยับเยินเนื่องจากการที่ Quinn ตำหนิความสัมพันธ์ของ Heather และ Tarek อย่างเหยียดหยามว่า 'น่าขัน'.ไม่สามารถก้าวข้ามการดูถูกได้ ตอนนี้ Young อ้างว่าเธอไม่สามารถเชื่อใจ Quinn ได้อีกต่อไปและด้วยเหตุนี้คุณแม่คนใหม่จึงเป็นสมาชิกคนเดียวที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการสมรสล่าสุดของ Heather
แม้จะมีความขัดแย้งที่ปกคลุมชีวิตของสาวๆ ที่ออพเพนไฮม์ ดาราสาวก็ย้ำว่าต้นสังกัดคือที่ที่ 'แง่บวก' ในการทำงาน และละครเรื่องนั้นก็เกิดขึ้นเพราะผู้หญิง 'เข้มแข็ง' และมีความคิดเห็นดี